กติกาแบล็คแจ็ค เรียนรู้กติกาใน 5 นาที สามารถทำเงินได้จริง
กติกาแบล็คแจ็ค เกมไพ่ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในคาสิโนทั่วโลก โดยมีจุดเด่นที่เล่นง่ายและมีกฎที่เข้าใจไม่ยาก เพียงแค่ผู้เล่นรู้จักกติกาพื้นฐานและกลยุทธ์ คาสิโนเว็บตรง การเล่นที่เหมาะสม ก็สามารถทำเงินได้จริงในเกมนี้ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเรียนรู้ กติกาไพ่แบล็คแจ็ค อย่างละเอียดเพื่อให้คุณเริ่มต้นเล่นได้ทันที กติกา แบล็คแจ็ค เริ่มต้นด้วยการแจกไพ่ให้ผู้เล่นและเจ้ามือ ผู้เล่นแต่ละคนจะได้รับไพ่ 2 ใบที่หงายขึ้น ในขณะที่เจ้ามือจะได้รับไพ่ 2 ใบเช่นกัน แต่ไพ่หนึ่งใบของเจ้ามือจะหงายขึ้น (Up Card) และอีกใบจะคว่ำไว้ (Hole Card) ผู้เล่นสามารถดูไพ่ของตนเองเพื่อคำนวณแต้มรวมและตัดสินใจว่าจะทำการเล่นอย่างไร
การนับแต้มไพ่ในแบล็คแจ็ค
- ไพ่ตัวเลข (2-10): ไพ่ที่มีตัวเลขตั้งแต่ 2 ถึง 10 จะมีค่าตรงตามตัวเลขบนหน้าไพ่
- ไพ่หน้า (J, Q, K): ไพ่หน้า หรือไพ่ที่มีรูปคน ได้แก่ แจ็ค (J), ควีน (Q), และ คิง (K) จะมีค่าเท่ากับ 10 แต้มเสมอ
- ไพ่เอซ (A): กติกาไพ่แบล็คแจ็ค ไพ่เอซเป็นไพ่พิเศษที่สามารถมีค่าได้ทั้ง 1 แต้ม หรือ 11 แต้ม ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต้มรวมในมือ หากแต้มรวมของไพ่ในมือยังไม่เกิน 21 เมื่อใช้ค่า 11 แต้ม ไพ่เอซจะมีค่าเป็น 11 แต้ม หากแต้มรวมเกิน 21 ไพ่เอซจะถูกนับเป็น 1 แต้มโดยอัตโนมัติ
การดำเนินเกมของไพ่แบล็คแจ็ค
- Hit (ขอไพ่เพิ่ม): กติกาแบล็คแจ็คออนไลน์ หากแต้มไพ่ในมือคุณยังไม่ใกล้เคียง 21 และต้องการเพิ่มแต้ม คุณสามารถขอไพ่เพิ่มได้
- Stand (หยุด): หากคุณพอใจกับแต้มที่มีแล้ว คุณสามารถเลือกหยุดเพื่อรอเปรียบเทียบแต้มกับเจ้ามือ
- Double Down (เพิ่มเดิมพัน): กฎแบล็คแจ็ค หากคุณมั่นใจว่าไพ่ใบต่อไปจะช่วยให้คุณชนะ คุณสามารถเพิ่มเงินเดิมพันอีกเท่าตัวและรับไพ่เพิ่มเพียง 1 ใบ
- Split (แยกไพ่): หากไพ่ 2 ใบแรกของคุณเป็นคู่ (เช่น 8-8 หรือ K-K) คุณสามารถแยกไพ่ออกเป็น 2 มือและเล่นแต่ละมือแยกกัน
- Surrender (ยอมแพ้): หากคุณไม่มั่นใจว่าจะชนะ คุณสามารถยอมแพ้และรับเงินคืนครึ่งหนึ่งจากการเดิมพัน
ความแตกต่างระหว่างแบล็คแจ็คแบบยุโรปและอเมริกา
กติกาแบล็คแจ็ค แบล็คแจ็คแบบยุโรปและแบบอเมริกามีความแตกต่างที่สำคัญในด้านกฎและวิธีการเล่น โดยในแบบอเมริกา เจ้ามือจะได้รับไพ่สองใบตั้งแต่เริ่มเกม และสามารถตรวจสอบไพ่เพื่อดูว่าเป็น แบล็คแจ็ค หรือไม่ตั้งแต่ต้น ซึ่งทำให้เกมจบเร็วหากเจ้ามือมีแบล็คแจ็ค ส่วนในแบบยุโรป เจ้ามือจะได้รับไพ่เพียงใบเดียวในช่วงเริ่มต้น และจะรับไพ่ใบที่สองหลังจากที่ผู้เล่นทุกคนเล่นเสร็จ ทำให้ผู้เล่นต้องเผชิญกับความเสี่ยงมากกว่าในระหว่างเกม
อีกประเด็นหนึ่งคือจำนวนสำรับไพ่ กติกาแบล็คแจ็คออนไลน์ แบบอเมริกามักใช้ไพ่ 6 ถึง 8 สำรับ ซึ่งเพิ่มความท้าทายในการคาดเดา ในขณะที่แบบยุโรปใช้เพียง 2 สำรับ ช่วยให้ผู้เล่นวางแผนการเล่นได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ กฎการ Split ไพ่ในแบบอเมริกามีความยืดหยุ่นมากกว่า เช่น การ Split ได้หลายครั้งหรือขอไพ่เพิ่มหลังการ Split ได้ไม่จำกัด ขณะที่แบบยุโรปมักจำกัดการ Split เพียงครั้งเดียว โดยเฉพาะเมื่อเป็นไพ่ A ที่ Split แล้วจะได้ไพ่เพิ่มเพียงใบเดียว
ไพ่พิเศษในแบล็คแจ็ค ส่งผลต่อผลลัพธ์ของเกมได้โดยตรง
แบล็คแจ็ค กติกา ไพ่พิเศษมีบทบาทสำคัญที่สามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ได้มากมาย โดยเริ่มจาก แบล็คแจ็ค2025 ซึ่งเป็นการได้เอซและไพ่ 10 คะแนนรวมกันทันที ที่จะได้ผลตอบแทนดีที่สุดในเกมคือ 3:2 หรือ 6:5 ขึ้นอยู่กับคาสิโน ในขณะที่ “บัสต์” คือเมื่อผู้เล่นมีคะแนนเกิน 21 ซึ่งจะทำให้เสียเดิมพันทันที หากเจ้ามือได้ไพ่เอซ ผู้เล่นสามารถเลือกซื้อ “การประกัน” เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการที่เจ้ามือจะได้แบล็คแจ็ค กฎกติกาแบล็คแจ็ค การประกันจะจ่าย 2:1 ถ้าเจ้ามือได้แบล็คแจ็ค แต่จะเสียเงินหากไม่ได้
คำถามที่พบบ่อย กติกาแบล็คแจ็ค
กติกาในการแจกไพ่เป็นอย่างไร?
กติกาแบล็คแจ็ค แจกไพ่ให้ผู้เล่นและเจ้ามือ โดยเจ้ามือจะหงายไพ่หนึ่งใบและคว่ำไพ่หนึ่งใบ
ผู้เล่นจะต้องทำอย่างไรหลังจากได้ไพ่เริ่มต้น?
ผู้เล่นสามารถเลือก “ฮิต” ขอไพ่เพิ่ม, “สแตนด์” ยอมรับคะแนนเดิม, “ดับเบิ้ลดาวน์” เพิ่มเดิมพันเป็นสองเท่าและขอไพ่เพิ่มใบเดียว, หรือ “แยกไพ่” เมื่อได้ไพ่คู่
การประกัน (Insurance) คืออะไร?
แบล็คแจ็ค กติกา การประกันเป็นตัวเลือกเมื่อเจ้ามือได้เอซ หากเจ้ามือได้แบล็คแจ็ค ผู้เล่นจะได้รับการจ่ายเงิน 2:1
แบล็คแจ็คมีลักษณะอย่างไร?
แบล็คแจ็คเกิดเมื่อผู้เล่นได้เอซและไพ่ 10 คะแนนจากไพ่สองใบแรก จะได้รับการจ่ายเงิน 3:2
หากผู้เล่นเกิน 21 แต้มจะเกิดอะไรขึ้น?
หากคะแนนเกิน 21 แต้ม จะถือว่า “บัสต์” และเสียเดิมพันทันที